isuzu dmax
อีซูซุ d max

ประกันรถ อีซูซุ Isuzu

คุ้มครองรถเรา ชนหนักชนเบา รถหาย ไฟไหม้ และคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิตร่างกาย ของคู่กรณี ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด มีประกันรถยนต์ติดรถไว้อุ่นใจกว่า

ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านไลน์

ตารางความคุ้มครอง ประกันรถยนต์

TISCOinsure ชัวร์กับประกันที่ใช่

ตารางเปรียบเทียบประกันรถยนต์

ทำประกันรถยนต์กับทิสโก้อินชัวร์

  • ผ่อน 0%
  • เลือกบริษัทประกันได้หลากหลาย
  • บริการปรึกษากรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทประกัน
  • แจ้งเตือนก่อนหมดอายุ
  • เช็คกรมธรรม์ง่าย ผ่านทาง Line
ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านไลน์ @TISCOUNSURE
ประกันชั้น 1

คุ้มครองความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับรถ ไม่ว่าจะเป็นรถชน ไฟไหม่ น้ำท่วม คุ้มครองครบ ตอบโจทย์ทั้งซ่อมศูนย์ และ ซ่อมอู่ ให้ทุนประกันสูง เคลมได้แม้จะไม่มีคู่กรณี

ประกันชั้น 2

จะคุ้มครองเฉพาะตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถของเรา จะคุ้มครองเฉพาะรถหาย ไฟไหม้

ประกันชั้น 2+

คุ้มครองตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกาย ของคู่กรณี คุ้มครองรถเราจากกรณีรถชนรถ ต้องมีคู่กรณีทุกครั้ง และคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้

ประกันชั้น 3

จะคุ้มครองเฉพาะตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถของเรา หากเราเป็นฝ่ายผิดต้องซ่อมรถตัวเราเอง

ประกันชั้น 3+

คุ้มครองตัวรถ ทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของคู่กรณี คุ้มครองรถเราเฉพาะกรณีรถชนรถและมีคู่กรณีเท่านั้น

บริษัทประกันชั้นนำ

ประกันภัย
LMG
โตเกียว

ประวัติรถยนต์ของค่ายอีซูซุ

รถยนต์อีซูซุ มีประวัติความเป็นมามายาวนานกว่า 100 ปี โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์สำหรับเรือในปี ค.ศ. 1916 โดยนาย Toyoda Kiichiro ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งมีความหลงใหลในเครื่องยนต์มาตั้งแต่เด็ก และมีความฝันที่จะผลิตเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดน้ำมัน อีซูซุมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในปี ค.ศ. 1964 และยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน

  • รถยนต์ปิกอัพ D-Max
  • รถยนต์อเนกประสงค์ MU-X

ศูนย์รถยนต์อีซูซุประเทศไทยมีทั้งหมด 255 สาขา แบ่งเป็น 245 สาขาที่เป็นโชว์รูม และ 10 สาขาที่เป็นศูนย์บริการเฉพาะทาง โดยกระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนี้

  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 75 สาขา
  • ภาคเหนือ 47 สาขา
  • ภาคกลาง 63 สาขา
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 41 สาขา
  • ภาคตะวันออก 19 สาขา
  • ภาคใต้ 19 สาขา

คำถามที่พบบ่อย

ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมศูนย์

คือ การซ่อมรถที่ศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ โดยการซ่อมห้างจะรับเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุไม่เกินประมาณ 5-7 ปี การซ่อมที่ศูนย์บริการมักจะมีคุณภาพที่น่าเชื่อ เรื่องความรับผิดชอบ มาตฐานการซ่อม อะไหล่แท้

ซ่อมอู่

คือ ซ่อมรถที่อู่ซ่อมรถทั่วไปซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะการรถที่อายุเกินกว่าเกณฑ์ที่ซ่อมศูนย์จะรับประกัน การซ่อมอู่มีข้อดีที่ มีอู่หลากหลายแห่ง และค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าซ่อมห้าง

หากเป็นฝ่ายถูก

คุ้มครองรถยนต์ของคุณไม่ว่าใครจะเป็นผู้ขับก็ตาม ซึ่งบริษัทประกันจะเรียกเก็บจากคู่กรณีเอง

หากเป็นฝ่ายผิด

ยังไม่ต้องตกใจว่าจะไม่คุ้มครอง บริษัทประกันยังคุ้มครองรถของเราและคู่กรณีด้วยเหมือนกันเพียงแต่ต้องจ่ายค่า “ค่าผิดเงื่อนไข” ในการซ่อมรถหรือทรัพย์สินคู่กรณี 2,000 บาท และรถของเรา 6,000 บาท

ค่ารับผิดส่วนแรก หรือ “Deductible” ในประกันภัย คือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบก่อน จากนั้นบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่ายที่เหลือเกินจากค่ารับผิดส่วนแรกนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย

ตัวอย่างเช่น หากค่ารับผิดส่วนแรกของคุณคือ 5,000 บาท มีค่าซ่อมรถจากอุบัติเหตุ 20,000 บาท คุณจะต้องจ่าย 5,000 บาทเอง และบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยส่วนที่เหลือ 15,000 บาท

ทุนประกัน คือ มูลค่าความเสียหายสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูญเสียอวัยวะ สูญเสียสายตา สูญเสียการได้ยิน อุบัติเหตุรถชน ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ เป็นต้น

เบี้ยประกัน คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อซื้อการคุ้มครองประกันภัย เบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ทุนประกัน ความคุ้มครองที่เลือก ประวัติการขับขี่ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ เป็นต้น

ดังนั้น ทุนประกันจึงเปรียบเสมือน “ความคุ้มครอง” ที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับจากบริษัทประกันภัย ส่วนเบี้ยประกันเปรียบเสมือน “ราคา” ที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับความคุ้มครองนั้น

รถอายุเกิน 7 ปี โดยทั่วไปแล้วบริษัทประกันภัยจะรับทำประกันชั้น 2, 2+,3, 3+  แนะนำว่าหากยังต้องการความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ควรทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ไว้จะดีกว่า

ทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกัน หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วตนเป็นฝ่ายผิดหรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้

Excess ค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคบังคับ จะเสียต่อเมื่อไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ 1,000 – 2,000 บาท

Deductible ค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคสมัครใจ เสียต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด เริ่มต้นที่ 1,000 บาท