ความแตกต่างระหว่างประกันมะเร็งและประกันโรคร้ายแรง

ประกันโรคร้ายแรง โรคมะเร็ง

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ธีร์จะมาพูดถึงเรื่องที่สำคัญมากสำหรับทุกคนที่กำลังสนใจเรื่องประกันสุขภาพ นั่นก็คือ “ประกันมะเร็ง” และ “ประกันโรคร้ายแรง” หลายคนอาจสงสัยว่าประกันทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างกันยังไง และควรเลือกแบบไหน วันนี้ธีร์จะมาอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ให้เพื่อนๆ ฟังครับ

ประกันสุขภาพคืออะไร

ก่อนอื่นเลย ธีร์อยากจะบอกว่า ประกันมะเร็งและประกันโรคร้ายแรงอยู่ในกลุ่มประกันสุขภาพ ซึ่งประกันสุขภาพเป็นเหมือนกับเกราะคุ้มกันที่ช่วยป้องกันเราจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเวลาที่เราเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ กล่าวง่ายๆ คือ เมื่อเรามีประกันสุขภาพ เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่แพงแสนแพง แต่ประกันสุขภาพบ้างทีจะไม่รวมการรักษาโรคร้ายแรง หรือความคุ้มครองก็ไม่ได้สูงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายของโรคร้ายแรงได้ ถึงจะมีความคุ้มครองที่สูงเพียงพอ แต่ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงมากขึ้นตามไปด้วย เพราะเหตุนี้ทางเราจึงอยากจะให้ทุกคนเข้าถึงประกันที่คุ้มครองโรคร้ายแรงได้ในราคาที่ไม่สูง ทีนี้เรามาดูกันต่อดีกว่าว่าทำไมประกันมะเร็งและประกันโรคร้ายแรงถึงมีความแตกต่างกัน

ประกันมะเร็งคืออะไร?

สำหรับประกันมะเร็งนั้น จะให้ความคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่เราถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งครับ โดยประกันนี้จะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา ค่าผ่าตัด ค่าคีโม หรือแม้แต่ค่าเดินทางไปโรงพยาบาล 

cancer image1

ประกันมะเร็งทิสโก้ดีอย่างไร

  • คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ
  • รับเงินก้อน 100% ของทุนประกันที่ทำไว้เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง
  • วงเงินค่ารักษาสูงสุด 1 ล้านบาท
  • ค่าเบี้ยคงที่ไม่ปรับเพิ่มตามช่วงอายุ
  • ชดเชยค่าตรวจวินิจฉัยซ้ำโรคมะเร็ง และค่าเดินทางไปรักษาตัวสำหรับโรคมะเร็ง

ด้วยแผนความคุ้มครองที่หลากหลายและความยืดหยุ่นในการเลือกตามความต้องการของคุณ ประกันมะเร็งทิสโก้จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพของคุณและครอบครัว สำหรับท่านใดที่สนใจประกันมะเร็ง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

 

เหตุผลที่หลายคนสนใจทำประกันมะเร็ง

หลายคนอาจจะเลือกทำประกันมะเร็ง เพราะว่ามะเร็งเป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูงและต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่มาก การมีประกันมะเร็งจะช่วยลดภาระทางการเงินและทำให้เรามีความอุ่นใจมากขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร?

ส่วนประกันโรคร้ายแรงนั้นมีความคุ้มครองที่กว้างกว่า เพราะครอบคลุมหลายโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต โรคปอด และอีกหลายๆ โรคครับ ประกันโรคร้ายแรงจะจ่ายเงินก้อนทันทีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงตามที่กำหนดในกรมธรรม์ ซึ่งประกันโรคร้ายแรงจะทุกแบ่งเป็นกลุ่มโรค 

ถ้าจะให้ธีร์เปรียบเทียบ ประกันมะเร็งจะเน้นเฉพาะมะเร็งเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ประกันโรคร้ายแรงจะครอบคลุมหลากหลายโรคที่ถือว่าร้ายแรง ดังนั้น ถ้าเราเป็นห่วงเกี่ยวกับโรคต่างๆ ประกันโรคร้ายแรงอาจจะเหมาะกว่าครับ

ความแตกต่างหลักระหว่างประกันมะเร็งและประกันโรคร้ายแรง

ถ้าจะให้ธีร์เปรียบเทียบ ประกันมะเร็งจะเน้นเฉพาะมะเร็งเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ประกันโรคร้ายแรงจะครอบคลุมหลากหลายโรคที่ถือว่าร้ายแรง ดังนั้น ถ้าเราเป็นห่วงเกี่ยวกับโรคต่างๆ ประกันโรคร้ายแรงอาจจะเหมาะกว่าครับ

ประกันมะเร็งและประกันโรคร้ายแรง

ประเภทประกัน คุ้มครอง การจ่ายเงินก้อน ค่าเบี้ย ต่ออายุได้ถึงกี่ปี
ประกันมะเร็ง โรคมะเร็งเท่านั้น 100% ประกันมะเร็งถูกกว่า , ไม่ปรับตามอายุ 70 ปี
ประกันโรคร้ายแรง 108 โรครวมถึงมะเร็ง จ่ายตามระยะโรค แพงกว่าประกันมะเร็ง , ปรับตามอายุ 98 ปี

การจ่ายเงินประกัน: การจ่ายตามระยะของมะเร็งและการจ่ายเป็นเงินก้อนสำหรับโรคร้ายแรง

การจ่ายเงินของประกันมะเร็งมักจะจ่ายตามระยะของโรค เช่น มะเร็งระยะแรกก็อาจจะจ่ายน้อยหน่อย แต่ถ้าเป็นระยะลุกลามก็จะจ่ายมากขึ้น ในขณะที่ประกันโรคร้ายแรงจะจ่ายเงินเป็นก้อนทันทีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง

เบี้ยประกัน: การเปรียบเทียบระหว่างเบี้ยประกันของทั้งสองประเภท

เบี้ยประกันของประกันมะเร็งมักจะถูกกว่า เพราะความคุ้มครองที่จำกัด แต่ประกันโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมหลายโรคจะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่า

ข้อจำกัดและเงื่อนไข: ความแตกต่างในข้อกำหนดและเงื่อนไขของการคุ้มครอง

ประกันมะเร็งมักจะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดน้อยกว่า แต่เน้นคุ้มครองเฉพาะโรคมะเร็ง ส่วนประกันโรคร้ายแรงมีเงื่อนไขมากกว่า แต่คุ้มครองหลากหลายโรค

ใครควรเลือกประกันประเภทใด

ในการเลือกประกันเพื่อนๆ ควรดูจากความต้องการและการเงินของตนเองเป็นหลักครับ ถ้าเราลองจินตนาการว่าเราเป็นโรคร้ายแรง เราพอจะมีเงินเก็บมาใช้ในการรักษา ดูแลร่างกาย และการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป การตัดสินใจเรื่องประกันต้องดูหลายปัจจัยนะครับ เช่น ประวัติครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง งบประมาณที่เรามี และความเสี่ยงส่วนบุคคลของเราเอง ซึ่งถ้าให้ธีร์แนะนำ ธีร์มองว่าเราควรมีประกันโรคมะเร็งก่อน เพราะว่าเบี้ยประกันมะเร็งจะคงที่ตลอดอายุกรมธรรม์ หมายความว่าถ้าเราทำไว้เร็ว เช่นแผน 1 ราคา 960 บาท เราก็จะจ่าย 960 บาทไปตลอดจนอายุ 70 ปี ซึ่งถ้าเราไปทำตอนอายุเยอะแล้ว ค่าเบี้ยจะขยับขึ้นสูงมากครับ

 

สรุปความแตกต่างและประโยชน์ของประกันแต่ละประเภท

ประกันมะเร็งและประกันโรคร้ายแรงมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของการคุ้มครองและเบี้ยประกัน ถ้าเพื่อนๆ กำลังคิดจะทำประกันสุขภาพ ควรพิจารณาตามความต้องการและความเสี่ยงส่วนบุคคลของตนเองเป็นหลัก

แชร์บทความนี้