ทำไมกินข้าวแล้วง่วง สาเหตุและวิธีแก้ไขที่ได้ผลจริง

กินข้าวแล้วง่วง

ทำไมกินข้าวแล้วง่วง เข้าใจเหตุผลพร้อมวิธีแก้ไขง่าย ๆ

หลายคนเคยเจอปัญหา “กินข้าวเสร็จแล้วง่วงจนทำงานต่อไม่ได้” ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคุณคนเดียว อาการนี้มีชื่อเรียกในทางการแพทย์ว่า Postprandial Somnolence ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการทำงานของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและระบบย่อยอาหาร วันนี้เราจะมาอธิบายถึงสาเหตุของอาการนี้ และวิธีแก้ไขง่าย ๆ ที่ทำได้ทันที!

สาเหตุที่ทำให้กินข้าวแล้วง่วง

ทำงานแล้วง่วง
  1. ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin)

หลังจากทานอาหาร โดยเฉพาะมื้อที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง ร่างกายจะหลั่งอินซูลินเพื่อช่วยดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ อินซูลินยังช่วยเพิ่มการดูดซึมกรดอะมิโน ทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเปลี่ยนเป็นสารที่ทำให้ง่วง ได้แก่:

  • เซโรโทนิน (Serotonin): ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • เมลาโทนิน (Melatonin): กระตุ้นให้ง่วงนอน
  1. ฮอร์โมน CCK (Cholecystokinin)

หลังจากทานโปรตีนและไขมัน ฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกมาเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร แต่มีผลกระตุ้นระบบ Parasympathetic Nervous System ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ร่างกายพักผ่อนและผ่อนคลาย ส่งผลให้รู้สึกง่วง

  1. เลือดไหลเวียนไปที่กระเพาะอาหารและลำไส้

ในกระบวนการย่อยอาหาร เลือดจำนวนมากจะถูกส่งไปที่กระเพาะและลำไส้เพื่อตอบสนองความต้องการของระบบย่อยอาหาร ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลง ส่งผลให้รู้สึกอ่อนล้าและง่วง

  1. ปริมาณอาหารมากเกินไป

การทานอาหารในปริมาณมากเกินไปทำให้กระเพาะอาหารขยายตัว การยืดกระเพาะนี้ส่งสัญญาณกระตุ้นระบบพาราซิมพาเทติก ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกอยากพักผ่อนหรือง่วงนอน

  1. วงจรการทำงานของร่างกาย (Circadian Rhythm)

ในช่วงบ่าย ระดับพลังงานตามธรรมชาติของร่างกายจะลดลง เป็นช่วงเวลาที่วงจรการตื่น-นอนของร่างกายกำหนดให้รู้สึกง่วง

ขอโฆษณาหน่อยนะ

ประกันสุขภาพ My Care Smart ดีอย่างไร

  • วงเงินรักษาสูงสุด 7 แสนบาท
  • ไม่บอกเลิกสัญญาแม้จะเคลมเยอะ
  • ค่าใช้จ่ายในการรักษา จ่ายตามจริง
  • ค่าเบี้ยคงที่ตามช่วงอายุที่กำหนด
  • ไม่เคลมมีเงินคืนสูงสุด 10%
สำหรับท่านใดที่สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ประกันสุขภาพ My care Smart
child eating dirty house

วิธีแก้อาการง่วงหลังมื้ออาหาร

  1. ปรับเมนูอาหารให้เหมาะสม
  • ลดคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวและน้ำตาลสูง: เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม ข้าวขาว
  • เพิ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลเกรน
  • ลดปริมาณไขมัน: หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรืออาหารที่มีไขมันสูง
  • เพิ่มโปรตีน: เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ หรือเต้าหู้
  1. ทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ อย่าทานจนอิ่มเกินไป จำกัดปริมาณอาหารไว้ที่ประมาณ 70-80% ของความจุเต็มกระเพาะ
  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และลดอาการอ่อนเพลียจากการขาดน้ำ
  1. เดินเล่นหลังมื้ออาหาร หลังทานอาหารให้เดินเล่นเบา ๆ ประมาณ 10-15 นาที การเดินช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและลดอาการง่วง
  1. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์อาจช่วยให้คุณง่วงเร็วขึ้น แต่จะทำให้คุณภาพการนอนลดลง และส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
  1. หลีกเลี่ยงกาแฟในช่วงบ่าย หากจำเป็นต้องดื่มกาแฟ ให้ดื่มก่อนเวลา 14.00 น. เพื่อป้องกันการรบกวนการนอนตอนกลางคืน

ใช้ “Power Nap” เพิ่มพลัง

หากยังง่วงมากในช่วงบ่าย อาจใช้วิธีนอนสั้น ๆ หรือ Power Nap โดยใช้เวลาเพียง 15-20 นาที อย่านอนเกินเวลานี้ เพราะจะทำให้รู้สึกงัวเงียเมื่อตื่น

อาหารมื้อเย็นช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหานอนหลับยาก อาจปรับเมนูมื้อเย็นโดยเพิ่มอาหารที่ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนอินซูลินเล็กน้อย เช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับได้ง่ายขึ้น

สรุป ดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อไม่ง่วงหลังมื้ออาหาร

อาการง่วงหลังมื้ออาหารเป็นเรื่องปกติ แต่สามารถจัดการได้ด้วยการปรับเมนูอาหาร ลดปริมาณอาหารที่กระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้ง่วง และดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น การดื่มน้ำให้เพียงพอ การเดินเล่น และการนอนหลับอย่างเหมาะสม

แชร์บทความนี้