LGBTQIA+ ตอนนี้ต้องประสบกับปัญหาที่กฏหมายไม่สามารถคุ้มครองเหมือนกับคู่รักปกติ ซึ่งคนที่เป็น LGBTQIA+ เองก็ไม่ต่างไปจากคู่รักอื่นๆ ที่มีความรักความฝันที่อยากจะใช้ชีวิตในแบบที่คนรักกันทำ สิทธิทางกฏหมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุตรบุญธรรม ภาษี สิทธิ์หรือสวัสดิการณ์ แม้กระทั้งเรื่องมรดก เป็นต้น ทาง TISCOinsure เข้าใจถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงได้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันสำหรับคู่ชีวิต เพื่อให้การส่งต่อมรดก การคุ้มครองชีวิต สามารถมอบให้กับคู่ชีวิตได้
ประกันคู่ชีวิตคืออะไร
ประกันคู่ชีวิต เป็นสัญญาประกันที่ทำขึ้นระหว่างบุคคลสองคน โดยทั่วไปจะเป็นคู่รัก หรือ คู่ครอง โดยระบุให้บุคคลหนึ่ง (ผู้เอาประกันชีวิต) จ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกัน และตกลงว่าหากผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายเงินสินไหมทดแทนแก่ผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ สามารถระบุคู่ชีวิตได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็น ชาย-หญิง
ประกันคู่ชีวิต มีประโยชน์หลัก ดังนี้
- ความคุ้มครองทางการเงิน: ยามที่คู่ครองเสียชีวิต เงินสินไหมทดแทนจากประกัน จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และ สนับสนุนให้คู่ครองที่เหลืออยู่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้
- วางแผนการเงินระยะยาว: ประกันคู่ชีวิต สามารถใช้เป็นเครื่องมือวางแผนการเงินระยะยาว เช่น การวางแผนการศึกษาบุตร การวางแผนเกษียณอายุ
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี: เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ประเภทของประกันคู่ชีวิต
ประกันที่เหมาะกับการส่งต่อมรดกให้กับคู่ชีวิต คือประกันชีวิต ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
- ประกันชีวิตแบบระยะเวลา (Term Life) : คุ้มครองผู้เอาประกันชีวิต เป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น 1 ปี, 5 ปี, 10 ปี ข้อดีคือค่าเบี้ยไม่สูง แต่ต้องจ่ายเบี้ยทิ้ง
- ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life): คุ้มครองผู้เอาประกันชีวิต ตลอดระยะเวลาชีวิต เหมาะกับคู่รักที่ต้องการความคุ้มครองระยะยาว ข้อดีคุ้มครองระยะเวลานาน
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment) : คุ้มครองผู้เอาประกันเหมาะกับคนที่ต้องการออมเงิน มีให้เลือกออมเป็นระยะได้ สั้น กลาง ยาว ข้อดีคือเงินต้นที่จ่ายค่าเบี้ยไม่หาย และได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง
- ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity) : คุ้มครองผู้เอาประกันจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี จากนั้นจะจ่ายเงินคืนให้กับเราตามอายุที่กำหนด เช่น My Wish Pension จ่ายเงินคืนถึงอายุ 99 ปี ข้อดีเหมาะกับคนที่วางแผนเกษียณอายุ
การเลือกประกันคู่ชีวิต
มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกประกันคู่ชีวิต เช่น
- ความต้องการคุ้มครอง: พิจารณาว่าต้องการความคุ้มครองระยะเวลาเท่าไหร่ และ เงินทุนที่ต้องการ
- เบี้ยประกัน: เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันต่างๆ
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม: พิจารณาความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ โรคร้ายแรง อุบัติเหตุ ชดเชยรายได้
ก่อนตัดสินใจซื้อประกันคู่ชีวิต
ควรศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทประกันต่างๆ ปรึกษากับ TISCOinsure เพื่อเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการ และ งบประมาณ