สำหรับหลายๆ คน การซื้อประกันไม่เพียงแต่เป็นการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ แต่ยังเป็นวิธีการที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย การทำประกันให้กับตัวเองหรือสมาชิกในครอบครัวจึงเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ แต่คำถามที่มักจะพบคือ เราสามารถซื้อประกันให้ใครเพื่อลดหย่อนภาษีได้บ้าง? ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกัน รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ ที่ควรรู้
ประกันที่ลดหย่อนภาษีได้มีอะไรบ้าง
การลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันมีหลักๆ 2ประเภท 1.ประกันชีวิต 2.ประกันสุขภาพ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีหมวดหมู่อื่นๆ เช่น ประกันชีวิตบำนาญ ประกันชีวืตสะสมทรัพย์ ประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเบี้ยประกันที่จ่ายจริง แต่จะต้องไม่เกินวงเงินที่กฎหมายกำหนด
ซื้อประกันให้ใครลดหย่อนได้บ้าง?
การซื้อประกันลดหย่อนภาษีไม่ใช่เฉพาะการทำประกันให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้สมาชิกในครอบครัวเพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ด้วย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
- ตัวเอง: การซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพให้กับตนเองสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยที่ประกันชีวิตสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และสำหรับประกันสุขภาพสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
- พ่อแม่: หากซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี คุณสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเบี้ยประกันที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
- คู่สมรส: คุณสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้หากคุณซื้อประกันให้คู่สมรส แต่ต้องเป็นกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ โดยสามารถลดหย่อนได้ตามจำนวนเบี้ยประกันที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี
ประเภทของประกันที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้
นอกจากประกันชีวิตที่เรามักคุ้นเคยกันแล้ว ยังมีประกันประเภทอื่นๆ ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน:
- ประกันชีวิต: ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
- ประกันบำนาญ: ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาทต่อปี แต่รวมกันกับการออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- ประกันสุขภาพ: สำหรับตัวเองและครอบครัว สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี (สำหรับตัวเอง) และ 15,000 บาทต่อปี (สำหรับพ่อแม่)
- ประกันอุบัติเหตุ: บางประเภทของประกันอุบัติเหตุก็สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้หากตรงตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ทำไมการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีจึงสำคัญ
- เพิ่มความคุ้มครอง: การซื้อประกันไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองทางสุขภาพและชีวิต แต่ยังช่วยให้คุณและครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงินในยามที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
- ประหยัดภาษี: การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันช่วยลดภาระทางการเงินเมื่อถึงเวลายื่นภาษี ทำให้คุณประหยัดเงินที่ควรจ่ายภาษีลงได้
- การวางแผนการเงินระยะยาว: การเลือกทำประกันเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินระยะยาว ที่ช่วยสร้างความมั่นคงในอนาคต และช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความคุ้มครองให้กับตัวเองและครอบครัว รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการยื่นภาษี อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนซื้อประกัน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด