การดูแลรักษายางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รถยนต์ของคุณสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การเติมลมยางเป็นหนึ่งในขั้นตอนพื้นฐานที่หลายคนต้องทำ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าการเติมลมยางนั้นมีสองประเภทหลักคือ ลมยางปกติและลมยางไนโตรเจน บทความนี้จะนำเสนอความแตกต่างระหว่างสองประเภทนี้ พร้อมกับข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเลือกใช้อะไรที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ
ก่อนจะเข้าเนื้อหาขอขายของก่อนนะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาถูกเพียง 7500 บาท
ลมยางปกติ
ลมยางปกติที่เราใช้กันทั่วไปคืออากาศธรรมดา ซึ่งประกอบด้วยไนโตรเจน 78%, ออกซิเจน 21%, และก๊าซอื่นๆ ประมาณ 1% การเติมลมยางด้วยอากาศธรรมดามีข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดีของลมยางปกติ
- สะดวกและหาง่าย: สามารถเติมได้ที่สถานีบริการน้ำมันทุกแห่ง หรือใช้ปั๊มลมขนาดเล็กที่บ้าน
- ราคาถูก: ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ข้อเสียของลมยางปกติ
- การขยายตัวตามอุณหภูมิ: อากาศภายในยางจะขยายตัวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นและหดตัวเมื่ออุณหภูมิลดลง ซึ่งอาจทำให้แรงดันลมยางไม่คงที่
- มีความชื้น: อากาศธรรมดามีความชื้นซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมของน้ำภายในยางและล้อ ทำให้เกิดสนิมได้ง่าย
ลมยางไนโตรเจน
ลมยางไนโตรเจนคือการเติมยางด้วยก๊าซไนโตรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูง โดยทั่วไปแล้วจะมีไนโตรเจนมากกว่า 95% ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากอากาศธรรมดา
ข้อดีลมยางไนโตรเจน
- แรงดันคงที่: ไนโตรเจนมีการขยายตัวตามอุณหภูมิน้อยกว่าอากาศธรรมดา ทำให้แรงดันลมยางคงที่มากขึ้น
- ลดความชื้น: ไนโตรเจนที่ใช้เติมยางมีความบริสุทธิ์สูงและมีความชื้นน้อยมาก ทำให้ลดการเกิดสนิมภายในยางและล้อ
- ยางเสื่อมช้าลง: ด้วยแรงดันที่คงที่และไม่มีความชื้น ทำให้ยางเสื่อมช้าลงและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ข้อเสียลมยางไนโตรเจน
- ค่าใช้จ่ายสูง: การเติมลมยางไนโตรเจนมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเติมลมยางปกติ
- การหาสถานที่เติมยากกว่า: ต้องเติมที่ศูนย์บริการเฉพาะทางหรือสถานที่ที่มีบริการเติมลมยางไนโตรเจนเท่านั้น
สรุป
การเลือกเติมลมยางปกติหรือลมยางไนโตรเจนขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้ หากคุณต้องการความสะดวกสบายและไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ลมยางปกติอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการรักษายางให้อยู่ในสภาพดีและมีอายุการใช้งานยาวนาน ลมยางไนโตรเจนอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
ไม่ว่าคุณจะเลือกเติมลมยางประเภทใด การตรวจเช็คลมยางเป็นประจำก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ เพื่อให้รถยนต์ของคุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด