การชนแบบไม่มีคู่กรณี คือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรือคู่กรณีไม่ใช่รถยนต์ เราจะได้ยินคำนี้ในกรณีที่เราทำประกันรถยนต์ ซึ่งสามารถแบ่งออกมาเป็น 3 ประเภท
1.ชนสิ่งของที่ไม่ใช่รถ
การขับไปชนสิ่งของต่างๆ อาจจะเกิดจากความประมาทของเรา ความไม่ชำนาญในการขับรถ หรือสิ่งของวางขวางทาง เช่น ชนเสาไฟฟ้า ครูดฟุตบาท ชนรั้วบ้าน ต้นไม้ หรือกรวยจราจร ก็ตาม
2.มีรอยไม่สามารถระบุคู่กรณีได้
กรณีที่เราอาจจะจอดรถข้างทางแล้วมาเจอรอยที่รถ ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนทำซึ่งไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ แบบนี้จะเคลมประกันไม่ได้ รวมถึงกรณีโดนชนแล้วหนี แต่ถ้าหากเรามีหลักฐานระบุตัวผู้กระทำได้ เราก็สามารถแจ้งประกันเพื่อทำเรื่องเคลมได้
3.ภัยธรรมชาติ
เกิดจากภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ฟ้าผ่าต้นไม้ใหญ่ล้มทับรถ แผ่นดินไหว น้ำป่าหลาก
ประกันรถยนต์ประเภทไหนคุ้มครองบ้าง
- ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองทุกกรณี
- ประกันชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี ไม่คุ้มครองรถเรา
- ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองรถคู่กรณี และรถของผู้เอาประกัน
- ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี ไม่คุ้มครองรถเรา
- ประกันชั้น 3+ คุ้มครองเหมือนชั้น 2+แต่ไม่คุ้มครอง รถหาย ไฟไหม้
สรุปความคุ้มครอง
การคุ้มครองชนแบบไม่มีคู่กรณีคือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น
เคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี ทำอย่างไร
- ติดต่อบริษัทประกัน
ติดต่อที่เบอร์ที่บริษัทประกันได้ให้ไว้ หรือดูได้ที่ เคลมประกันเบอร์อะไร สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฝ่ายประกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งหากเกิดเหตุแล้วทำการแจ้งเคลมในเวลาทันทีจะเรียกว่า “เคลมสด” หากแจ้งเคลมย้อนหลังจากวันที่เกิดเหตุจะเรียกว่า “เคลมแห้ง” ซึงเป็นคำศัพท์ของทางบริษัทประกัน - แจ้งข้อมูลเพื่อขอรับใบเคลม
เมื่อแจ้งเคลมแล้วอาจจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพื่อประเมินความเสียหายในการซ่อมรถ ตรงจุดนี้สำคัญมากนะครับ หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมต้องทำการเจรจากับเจ้าหน้าตรงนี้เลย - นำรถไปซ่อมที่ อู่หรือศูนย์
เคลมประกันกรณีชนไม่มีแบบไม่มีคู่กรณีเสียประวัติจริงไหม
เราต้องเข้าใจก่อนว่าการที่เราเกิดอุบัติเหตุขึ้น และเกิดความเสียหายกับรถยนต์ของเรา เราจำเป็นต้องเคลมประกันเพื่อให้รถยนต์ของเราใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเราอาจจะกังวลว่าเคลมแบบนี้จะทำให้ปีถัดไปค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น เสียประวัติส่วนลด ต้องบอกว่าถ้าเราเป็นคนที่ขับขี่ดีมาโดยตลอด เบี้ยส่วนลดนั้นแค่ลดลง 1 ขั้นเท่านั้น ไม่ได้เสียส่วนลดทั้งหมด
- ปีที่ 1 ส่วนลดประวัติดี 20% ของเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป เมื่อขับดีไม่มีการแจ้งเคลมฝ่ายผิด
- ปีที่ 2 ส่วนลดประวัติดี 30% ของเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป เมื่อขับดีไม่มีการแจ้งเคลมฝ่ายผิด
- ปีที่ 3 ส่วนลดประวัติดี 40% ของเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป เมื่อขับดีไม่มีการแจ้งเคลมฝ่ายผิด
- ปีที่ 4 ส่วนลดประวัติดี 50% ของเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป เมื่อขับดีไม่มีการแจ้งเคลมฝ่ายผิด
เคลมได้กี่ครั้ง
การเคลมประกันรถยนต์ไม่ได้กำหนดจำนวนเคลม คุณจะเคลมกี่ครั้งก็ได้
หากเป็นฝ่ายถูก : คุณจะเคลมกี่ครั้งก็ไม่มีผลต่อเบี้ยประกัน หรือประวัติส่วนลด เคลมได้เต็มที่ไม่ต้องกังวล
หากเป็นฝ่ายผิด : การเคลมประกันรถยนต์ก็ไม่ได้กำหนดจำนวนครั้งในการเคลม เพียงแต่อาจจะเสียประวัติส่วนลด และอาจจะถูกเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันเพิ่ม หากมีการเคลมในปีนั้นเป็นจำนวนมาก